วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

พระสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก



พระสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก?[1]
 ๑. บทนำ
            พระสูตรในพระสุตตันตปิฎกมิได้ถูกเรียบเรียงตามกาลเวลาที่พระสูตรถูกแสดง แต่ถูกจัดเรียบเรียงเป็นหมวดหมู่ตามความเหมาะสม พระสูตรแรกที่ถูกแสดงไว้ในพระสุตตันตปิฎกคือ พรหมชาลสูตร (สูตรว่าด้วยข่ายอันประเสริฐ)อยู่ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เป็นพระไตรปิฎกเล่มที่ ๙
๒. ใจความสำคัญของพรหมชาลสูตร[2]
            พรหมชาลสูตรเป็นพระสูตรขนาดยาวสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก เป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสั่งสอนเหล่าภิกษุหลังจากเหล่าภิกษุได้สนทนากันเรื่องที่สุปปิยปริพาชกได้กล่าวติเตียนพระรัตนตรัย และพรหมทัตมาณพผู้เป็นศิษย์ได้กล่าวสรรเสริญพระรัตนตรัย เป็นพระสูตรขนาดยาวจำนวนหลายหน้า ซึ่งสามารถสรุปใจความสำคัญได้เป็น ๕ ส่วนดังนี้
          ๒.๑ มิให้โกรธเมื่อมีผู้ติเตียนพระรัตนตรัย และมิให้ยินดีเมื่อมีผู้สรรเสริญพระรัตนตรัย
          ๒.๒ กล่าวถึงรายละเอียดของ จูฬศีล, มัชฌิมศีล, มหาศีล (ศีลอย่างเล็กน้อย, อย่างกลาง และอย่างใหญ่)
          ๒.๓ รายละเอียดของทิฏฐิ ๖๒ ประการ (ปรารภเบื้องต้น ๑๘, เบื้องปลาย ๔๔)
          ๒.๔ ทรงตรัสว่าผู้ที่มีทิฏฐิ ๖๒ ประการนี้ ย่อมได้เสวยอารมณ์จากอายตนะทั้ง ๖ มีความยึดมั่นถือมั่นดังปลาที่ติดอยู่ในข่าย
๒.๕ สุดท้าย จึงทรงตรัสว่าตถาคตเป็นผู้ถอนตัณหาอันจะทำให้ติดอยู่ในภพได้แล้ว
๓. สาเหตุที่นำพรหมชาลสูตรมาแสดงไว้เป็นพระสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก?
            มีข้อสังเกตว่าพระพุทธเจ้าทรงแสดง ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรไว้เป็นพระสูตรแรก หลังตรัสรู้ เหตุใดจึงไม่นำธัมมจักกัปปวัตตนสูตรมาแสดงเป็นพระสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก แต่กลับนำพรหมชาลสูตรมาแสดงไว้เป็นพระสูตรแรกการเรียบเรียงลำดับของพระสูตรเช่นนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลอันลึกซึ้งซึ่งพระอรหันต์ทั้งหลายที่ได้ร่วมกันทำการสังคายนาได้พิจารณาไว้ดีแล้ว ในที่นี้จะขอวิเคราะห์เหตุผลการนำพรหมชาลสูตรขึ้นแสดงเป็นพระสูตรแรก โดยพิจารณาตามหัวข้อสำคัญในพระสูตรไปตามลำดับ ดังนี้
          ๓.๑ มิให้โกรธเมื่อมีผู้ติเตียนพระรัตนตรัย และมิให้ยินดีเมื่อมีผู้สรรเสริญพระรัตนตรัย เป็นการเปิดใจผู้เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาได้ว่าพระพุทธเจ้ามิได้ทรงต้องการการสรรเสริญหรือยอมรับ มิได้ทรงโกรธหากมีผู้ไม่ยอมรับ ไม่บังคับให้ศรัทธา หากแต่มีเหตุและผลให้ไปพิจารณาเอง
            ๓.๒ จูฬศีล, มัชฌิมศีล, มหาศีล (ศีลอย่างเล็กน้อย, อย่างกลาง และอย่างใหญ่) เนื่องจากศีลเป็นบาทฐานของการเริ่มฝึกตนในทางพระพุทธศาสนาตามหลักของไตรสิกขา พระสูตรเรื่องศีลจึงถูกนำมารวมไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค (เล่มที่ ๙) เป็นเล่มแรกในหมวดพระสุตตันตปิฎก
          ๓.๓ รายละเอียดทิฏฐิ ๖๒ ประการ (ปรารภเบื้องต้น ๑๘, เบื้องปลาย ๔๔) ชี้แจงความเห็นที่ผิดทั้ง ๖๒ ประการ เป็นการปูพื้นฐานในการศึกษาต่อไป ไม่ให้เข้าใจหรือตีความผิดไปเป็นความเห็นใดใน ๖๒ ประการนี้ เพราะทราบแต่เบื้องต้นแล้วว่าสิ่งใดไม่ใช่ สิ่งใดไม่ถูก เป็นการให้ผู้เริ่มศึกษาได้พิจารณาความเห็นเดิมของตน ว่าอยู่ในขอบข่ายของทิฏฐิ ๖๒ ประการนี้บ้างหรือไม่
          ๓.๔ ทรงตรัสว่าผู้ที่มีทิฏฐิ ๖๒ ประการนี้ ย่อมได้เสวยอารมณ์จากอายตนะทั้ง ๖ มีความยึดมั่นถือมั่นดังปลาที่ติดอยู่ในข่าย ผู้ศึกษาจะได้ทราบถึงผล ที่เกิดจากเหตุแห่งการมีทิฏฐิ ๖๒ ประการนี้
          ๓.๕ สุดท้าย จึงทรงตรัสว่าตถาคตเป็นผู้ถอนตัณหาอันจะทำให้ติดอยู่ในภพได้แล้วชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะหลุดพ้นจากข่ายแห่งความยึดมั่นถือมั่นนี้ ถือเป็นการปูทางก่อนที่จะเริ่มต้นศึกษาในหลักธรรมต่างๆ และเพื่อให้เข้าใจในเป้าหมายของพุทธศาสนา ซึ่งก็คือความหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง
            ด้วยเหตุผลทั้งปวงที่ได้กล่าวมาดังนี้แล้ว จึงเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะนำพรหมชาลสูตรมาแสดงไว้เป็นพระสูตรแรกในพระสุตตันตปิฎก เพื่อเป็นการทั้งเปิดใจ และปูทางสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาพระสูตร และหลักธรรมข้ออื่นๆต่อไป





[1] คณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, พระไตรปิฎกศึกษา, (กรุงเทพมหานคร : ไทยรายวันการพิมพ์, ๒๕๕๓), หน้า ๒๗-๓๐.
[2] ดูรายละเอียดใน ที.สี. (ไทย) ๙/๑/๑.

แบบฝึกหัดบทที่ ๓


แบบฝึกหัดพระสุตตันตปิฎก
บทที่ ๓



๑. มัชฌิมนิกาย มีพระสูตรเท่าไหร่
     ก. ๕๐ สูตร                ข. ๑๐๐ สูตร
     ค. ๑๕๐ สูตร              ง.​ ๑๕๒ สูตร
๒. มัชฌิมนิกาย แบ่งเป็นกี่ปัณณาสก์ อะไรบ้าง
     ก. ๑ ปัณณาสก์ คือ มูลปัณณาสก์
     ข. ๒ ปัณณาสก์ คือ มูลปัณณาสก์ และมัชฌิมปัณณาสก์
     ค. ๓ ปัณณาสก์ คือ มูลปัณณาสก์ มัชฌิมปัณณาสก์ และอุปริปัณณาสก์
     ง. ๓ ปัณณาสก์ คือ มูลปัณณาสก์  มัชฌิมปัณณาสก์ อปัณณกปัณณาสก์
๓. แต่ละปัณณาสก์แบ่งออกเป็นกี่วรรค
     ก. ๒ วรรค                ข. ๓ วรรค
     ค. ๔ วรรค                ง. ๕ วรรค
๔. แต่ละวรรค มีหลักการตั้งชื่อวรรคอย่างไร
     ก. ตั้งตามลักษณะเนื้อหาของพระสูตรในวรรคนั้นๆ
     ข. ตั้งตามชื่อของพระสูตรแรกในวรรค
     ค. ตั้งตามความยาวของพระสูตร
     ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข
๕. ในมูลปัณณาสก์มีวรรคอะไรบ้าง
     ก. มูลปริยายวรรค สีหนาทวรรค
     ข. โอปัมมวรรค มหายมกวรรค
     ค. จูฬยมกวรรค
     ง.​ถูกทั้งทุกข้อ
๖. คหปติวรรค ภิกขุวรรค ปริพาชกวรรค ราชวรรค และพราหมณวรรค อยู่ในปัณณาสก์อะไร
     ก. มัชฌิมปัณณาสก์
     ข. อุปริปัณณาสก์
     ค. อปัณณกปัณณาสก์
     ง. ข้อ ก ถูก
๗. อลคัททูปมสูตร แสดงเกี่ยวกับเรื่องอะไร
     ก. การศึกษาปริยัติธรรม
     ข. การปฏิบัติตามปริยัติธรรม
     ค. การแสดงข้อเปรียบเทียบด้วยงูพิษ
     ง. การแสดงเกี่ยวกับปริยัติสัทธรรม ๓ ระดับ
๘. ในอลคัททูปมสูตร พระอริฏฐะ กล่าวตู่พระพุทธเจ้าว่าอย่างไร
     ก. กล่าวตู่ว่า ธรรมที่พระองค์ตรัสว่าเป็นอันตราย ไม่เป็นอันตราย
     ข. กล่าวตู่ว่า ผู้ส้องเสพธรรมที่เป็นอันตรายไม่เป็นอันตราย
     ค. กล่าวตู่ว่า เขารู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ตรัสไว้ทุกอย่าง
     ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
๙. ในพระสูตรนี้พระพุทธเจ้าทรงเปรียบกามเหมือนอะไรบ้าง
     ก. เหมือนคบหญ้า
     ข. เหมือนถ่านเพลิง
     ค. เหมือนความฝัน
     ง. ถูกทุกข้อ
๑๐. ในพระสูตรนี้พระองค์ทรงแสดงบุคคลศึกษานวังคสัตถุศาสน์ไว้กี่ประเภท อะไรบ้าง
     ก. ๑ ประเภท คือ เรียน แต่ไม่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม
     ข. ๑ ประเภท คือ เรียนแต่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม
     ค. ๒ ประเภท คือ เรียนแต่ไม่พิจารณา และเรียนแต่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม
     ง. ข้อ ค ถูก
๑๑. อรรถกถาจารย์แบ่งประเภทของผู้ศึกษาไว้กี่ประเภท อะไรบ้าง
     ก. ๑ ประเภท คือ อลคัททูปมปริยัติ
     ข. ๒ ประเภท คือ อลคัททูปมปริยัติ นิสสรณัตถปริยัติ
     ค. ๓ ประเภท คือ อลคัททูปมปริยัติ นิสสรณัตถปริยัติ และภัณฑาคาริกปรัยัติ
     ง. ข้อ ค ถูก
๑๒. ภัณฑาคาริกปริยัติ คือ การศึกษาของบุคคลประเภทใด
     ก. ผู้เรียนเพื่อมุ่งลาภสักการะ
     ข. ผู้เรียนเพื่อมู่งความหลุดพ้น
     ค. ผู้เรียนเพื่อรักษาแบบแผน ประเพณี
     ง. ผู้เรียนเอาไว้โต้เถียงกับคนอื่น


    



แบบทดสอบความรู้เบื้องต้น


แบบทดสอบวิชาพระสุตตันตปิฎก




๑. ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงส่งพระสาวก ๑,๒๕๐ รูป ออกไปประกาศพระศาสนาครั้งแรก  และก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน  ทรงเรียกคำสอนของพระองค์ว่าอะไร
         ก. ธรรม, วินัย                   ข. พรหมจรรย์
         ค. นวังคสัตถุศาสน์        ง. อริยมรรค
๒. พระเถระรูปใด  เป็นผู้วางรูปแบบแห่งการทำสังคายนา
         ก. พระมหากัสสปเถระ ข. พระสารีบุตรเถระ
         ค. พระอานนท์เถระ        ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
๓. พระเถระรูปใด  เป็นประธานในคราวปฐมสังคายนา
         ก. พระมหากัสสปเถระ ข. พระสารีบุตรเถระ
         ค. พระอานนท์เถระ        ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
๔. ข้อใด มิใช่  ความหมายของคำว่า  สุตตันตะ
         ก. บ่งประโยชน์               
         ข. มีอรรถที่ตรัสไว้ดีแล้ว
         ค. หลั่งประโยชน์ผลิตประโยชน์
         ง. มีอรรถที่ทรงจำต่อๆ กันมา
๕. คำว่า ปิฎก มีความหมายตรงกับข้อใด
         ก. คัมภีร์                             ข. กระจาด
         ค. ตระกร้า                         ง. ถูกทุกข้อ
๖. ประมวลพระพุทธพจน์ที่ทรงแสดงโดยโวหารเทศนาหรือปุคคลาธิษฐานตรงกับข้อใด
         ก. พระอภิธรรมปิฎก      ข. พระสุตตันตปิฎก
         ค. พระไตรปิฎก               ง. พระวินัยปิฎก
๗. ข้อใดเป็นไวพจน์ของพระสุตตันตปิฎก
         ก. ยถาปราธศาสน์           ข. ยถาธัมมศาสน์
         ค. ยถานุศาสน์                  ง. ยถานุโลมศาสน์
๘. พระสุตตันตปิฎกมีนิกายทั้งหมดกี่นิกาย
         ก. ๕ นิกาย                         ข. ๖ นิกาย
         ค. ๗ นิกาย                        ง. ๘ นิกาย
๙. พระสูตรที่มีเนื้อหาขนาดยาวควรจัดเข้าในนิกายใด
         ก. ทีฆนิกาย                       ข. มัชฌิมนิกาย
         ค. สังยุตตนิกาย               ง. อังคุตตรนิกาย
๑๐. พระสูตรที่มีเนื้อหาขนาดปานกลางควรจัดเข้าในนิกายใด
         ก. ทีฆนิกาย                       ข. มัชฌิมนิกาย
         ค. สังยุตตนิกาย               ง. อังคุตตรนิกาย
๑๑. พระสูตรที่ทรงแสดงเพราะเกิดเหตุขึ้นเรียกว่าอะไร
         ก. ปุจฉาวสิกะ                   ข. ปรัชฌาสยะ
         ค. อัตตัชฌาสยะ               ง. อัตถุปปัตติกะ
๑๒. อลคัททูปมสูตร  เป็นพระสูตรที่มีขนาดปานกลาง ควรจัดอยู่ในนิกายใดของพระสัตตันตปิฎก
         ก. ก. ทีฆนิกาย                  ข. มัชฌิมนิกาย
         ค. สังยุตตนิกาย               ง. อังคุตตรนิกาย
๑๓. คัมภีร์ที่อธิบายพระไตรปิฎกได้แก่คัมภีร์ในข้อใด
         ก. อนุฎีกา                          ข. ปกรณ์วิเสส
         ค. อรรถกถา                     ง. ฎีกา
๑๔. คัมภีร์วิสุทธิมรรคจัดอยู่ในคัมภีร์ประเภทใด
         ก. อนุฎีกา                          ข. ปกรณ์วิเสส
         ค. อรรถกถา                     ง. ฎีกา
๑๕. พระเถระรูปใดเป็นผู้แต่งอรรถกถามากที่สุด
         ก. พระธรรมปาละ           ข. พระพุทธทัตตเถระ
         ค. พระพุทธโฆสเถระ     ง. พระอุปเสนเถระ
๑๖. มูลเหตุของการแสดงพระสูตร มี ประการ
         ก. ๑ ประการ                     ข. ๒ ประการ
         ค. ๓ ประการ                    ง. ๔ ประการ
๑๗. พระสูตรที่ทรงแสดงตามพระอัธยาศัยของพระองค์เอง เรียกว่าอะไร
         ก. ปุจฉาวสิกะ                   ข. ปรัชฌาสยะ
         ค. อัตตัชฌาสยะ               ง. อัตถุปปัตติกะ
๑๘. พระสูตรที่ทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้อื่น เรียกว่าอะไร
         ก. ปุจฉาวสิกะ                   ข. ปรัชฌาสยะ
         ค. อัตตัชฌาสยะ               ง. อัตถุปปัตติกะ
๑๙. มหาสติปัฏฐานสูตร จัดอยู่ในพระสูตรประเภทใด
         ก. พระสูตรที่ทรงแสดงตามพระอัธยาศัยของพระองค์เอง
         ข. พระสูตรที่ทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้อื่น
         ค. พระสูตรที่ทรงแสดงตามคำทูลถาม
         ง. พระสูตรที่ทรงแสดงเพราะเกิดเหตุขึ้น 
๒๐. ธัมมจักกัปปวัตนสูตร จัดอยู่ในพระสูตรประเภทใด
         ก. พระสูตรที่ทรงแสดงตามพระอัธยาศัยของพระองค์เอง
         ข. พระสูตรที่ทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้อื่น
         ค. พระสูตรที่ทรงแสดงตามคำทูลถาม
         ง. พระสูตรที่ทรงแสดงเพราะเกิดเหตุขึ้น 

เฉลย
๑. ข  ๒. ข  ๓. ก  ๔. ง  ๕. ง.  ๖. ข  ๗. ง  ๘. ก  ๙. ก  ๑๐. ข  ๑๑. ง  ๑๒. ข  ๑๓. ค  ๑๔. ข  ๑๕. ค  ๑๖. ง  ๑๗. ค  ๑๘. ข  ๑๙. ก  ๒๐. ข